| Core Module โมดูลหลักของสถานี เป็นโมดลูส่วนแรกที่ถูกส่งขึ้นสู่ วงโคจรเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 1986 เป็นส่วนบริการสำหรับอยู่อาศัย เอื้อชีวิต เป็นแหล่งพลังงาน และค้นคว้าทางด้าน วิทยาศาสตร์ มีท่าเทียบสองด้านหัวท้าย และท่าเทียบแบบสี่ทิศทาง
น้ำหนัก 20.4 ตัน
ความยาว 13.13 เมตร
เส้นผ่านศูนย์กลาง 4.15 เมตร
แผงโซล่าเซลให้พลังงาน 10 กิโลวัตต์
มีความจุ 90 ลูกบาศก์เมตร
|
|
| Kvant-1 เป็นโมดูลส่วนที่สอง ที่ส่งขึ้นไปต่อกับ Core Module ด้านท้าย เมื่อปี คศ.1987 เป็นโมดูลขนาดเล็ก บรรจุเครื่องมือทางด้านดาราศาสตร์เพื่อค้นคว้าทางด้านฟิสิกส์ของกาแลกซี่ ควอซ่าร์ ดาวนิตรอน มีอุปกรณ์เอื้อชีวิต และห้องทดลองด้านชีววิทยา
น้ำหนัก 11 ตัน
ความยาว 5.8 เมตร
เส้นผ่านศูนย์กลาง 4.15 เมตร
แผงโซล่าเซลให้พลังงาน 6 กิโลวัตต์
มีความจุ 40 ลูกบาศก์เมตร
|
|
| Kvant-2 เป็นโมดูลส่วนที่สาม ส่งขึ้นไปต่อกับ port ด้านรัศมีของ Core Module ด้านหนึ่ง เมื่อปี คศ 1989 เป็นโมดูลด้านวิทยาศาสตร์ ประกอบด้วยส่วน EVA Airlock ,แผงโซล่าเซล, อุปกรณ์เอื้อชีวิต น้ำดื่ม แหล่งอ๊อกซิเยน ระบบควบควบการเคลื่อนไหว รวมทั้งห้องอาบน้ำ และซักล้าง
น้ำหนัก 18.5 ตัน
ความยาว 13.73 เมตร
เส้นผ่านศูนย์กลาง 4.35 เมตร
แผงโซล่าเซลให้พลังงาน 6.9 กิโลวัตต์
มีความจุ 61.3 ลูกบาศก์เมตร
|
|
| Kristall โมดูลที่สี่ ส่งขึ้นไปเมื่อปี คศ.1990 ครั้งแรกเชื่อมต่อกับ Core Module ตรงข้ามกับ Kvant-2 มีแผงโซล่าเซลที่สามารถพับเก็บได้ บรรจุเครื่องมือด้านวิทยาศาสตร์ และท่าเทียบแบบพิเศษที่สามารถรับยานขนาดใหญ่ ที่มาจอดเทียบได้สูงสุด 100 ตัน ซึ่งกระสวยอวกาศแอตแลนติส ได้ใช้เป็นท่าเทียบจอดเมื่อครั้งเที่ยวบินที่ STS-71
น้ำหนัก 19.6 ตัน
ความยาว 13.73 เมตร
เส้นผ่านศูนย์กลาง 4.35 เมตร
แผงโซล่าเซลขนาด 5.5-8.4 กิโลวัตต์
มีความจุ 60.8 ลูกบาศก์เมตร
|
|
| Spektr ถูกส่งขึ้นไปสู่วงโคจรด้วยจรวดโปรตอนของรัสเซีย เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 1995 โดยเชื่อมต่อกับ Core Module ตรงข้ามกับ Kvant-2 แทนที่ Kristall บรรจุเครื่องมือด้านวิทยาศาสตร์ เพื่อศึกษาโลกและชั้นบรรยากาศ
วันที่25 มิถุนายน 1997 spektr ได้รับความเสียหายอย่างหนัก เมื่อยาน Progress M-34 และยานลำเลียง ชนกับโมดูลนี้ทำให้อากาศรั่ว จึงต้องมีการปิดตายส่วนนี้
น้ำหนัก 19.6 ตัน
ความยาว 13 เมตร
เส้นผ่านศูนย์กลาง 4.35 เมตร
มีความจุ 61.9 ลูกบาศก์เมตร
|
|
| Docking Port เป็นส่วนที่ส่งขึ้นกับกระสวยอวกาศแอตแลนติส เพื่อเชื่อมต่อเมียร์ตรงส่วนโมดูล Kristall ช่วงเที่ยวบิน STS-74
|
|
| Priroda เป็นโมดูลส่วนสุดท้ายที่นำขึ้นไปเชื่อมกับเมียร์ อยู่ตรงข้ามกับ Kristall module ส่งขึ้นไปเมื่อวันที่ 23 เมษายน 1996 ใช้เป็นส่วนสังเกตการณ์โลกในระยะไกล
น้ำหนัก 19.7 ตัน
ความยาว 13 เมตร
เส้นผ่านศูนย์กลาง 4.35 เมตร
มีความจุ 66 ลูกบาศก์เมตร
|
|
| Soyus-TM ใช้เป็นยานลำเลียงนักบินอวกาศระหว่างสถานีอวกาศกับพื้นโลก และใช้เป็นยานลี้ภัยด้วย (Lifeboat)
น้ำหนัก 7.1 ตัน
ความยาว 7 เมตร
เส้นผ่านศูนย์กลาง 2.7 เมตร
แผงโซล่าเซลขนาด 1.3 กิโลวัตต์
มีความจุ 10 ลูกบาศก์เมตร
|
|
 | Progress เป็นยานส่งกำลังบำรุง อาหาร และอื่นๆ ให้กับนักบินอวกาศ
น้ำหนัก 7.2 ตัน
ความยาว 7 เมตร
เส้นผ่านศูนย์กลาง 2.7 เมตร
แผงโซล่าเซลขนาด 1.3 กิโลวัตต์
มีความจุ 7.6 ลูกบาศก์เมตร
|
|
ส่วนประกอบของเมียร์
|

ยานโซยุซ-ทีเอ็ม (ศรชี้)กำลังบินออกจากสถานีอวกาศเมียร์ | ส่วนหัวของมอดูลแกนต่อกับยานโซยุซ-ทีเอ็ม (Soyuz-TM) อันเป็นยานที่ควบคุมด้วยมนุษย์ ยานโซยุซ-ทีเอ็มนี้ใช้เป็นพาหนะขนส่งมนุษย์อวกาศไปกลับระหว่างสถานีอวกาศและโลก รวมทั้งยงใช้เป็นยานช่วยชีวิตในกรณีที่สถานีอวกาศเกิดเหตุร้าย ส่วนท้ายของมอดูลแกนต่อกับมอดูลควันต์และยานพรอเกรสส์-เอ็ม (Progress-M) อันเป็นยานที่ควบคุมด้วยระบบอัตโนมัติ ไม่ใช้มนุษย์ควบคุม มีหน้าที่ขนส่งสัมภาระและเสบียงจากโลกมาสู่สถานีอวกาศ รวมทั้งขนสัมภาระและขยะจากสถานีอวกาศกลับสู่โลก |
|
| ยานโซยุซ-ทีเอ็มกำลังเข้าเชื่อมต่อกับ เมียร์ ส่วนที่เห็นเป็นห้องทรงกลมสีดำ บริเวณกลางภาพคือห้องนักบิน ส่วน ที่เห็นคล้ายปีกแผ่ออกไปจากตัวยาน คือแผงเซลล์สุริยะซึ่งมีหน้าที่เป็นแหล่ง พลังงานแก่ยานขณะเดินทางในอวกาศ |
|
| มนุษย์อวกาศชาวรัสเซียที่ประจำการอยู่ในสถานีอวกาศ ชีวิตในอวกาศเป็นชีวิตที่ไร้แรงโน้มถ่วงผู้ที่ถูกส่งไปประจำการต้องได้รับการฝึกฝนมาโดยเฉพาะ ที่เห็นเป็นก้อนสีดำลอยอยู่กลางภาพและทั้งสองกำลังจ้องดูอยู่คือกล้องถ่ายภาพยนตร์และจะสังเกตได้ว่าห้องในสถานีอวกาศแห่งนี้มีขนาดเล็กคับแคบ |
ลองเปลี่ยนสีฟอนต์หน่อยนะคะ...ครูจิ
ตอบลบ